มนุษย์หมาป่าราชันย์อำมหิต เต็มเรื่อง Full HD 24 ช.ม.

มนุษย์หมาป่าราชันย์อำมหิต

มนุษย์หมาป่าราชันย์อำมหิต เป็นภาพยนตร์ฮอลลัสู้ดที่นำต้นฉบับภาพยนตร์เขย่าขวัญในชื่อเดียวกันเมื่อปี พุทธศักราช 2484 กลับมาทำใหม่ โดยผู้กำกับ โจ จอห์นสตัน แสดงนำโดย เบนิสิโอ เดล โทโร่, แอนโทนี ฮ็อปกินส์, เอมิลี่ บลันท์, ฮิวโก วีฟวิง และก็พบราดีน แชปลิน แรกเริ่มมีระบุฉายในวันที่ 6 เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช 2552 แม้กระนั้นได้เลื่อนมาเข้าฉายวันที่ 12 ก.พ. พุทธศักราช 2553

ลอว์เรนซ์ ทัลบอทในตอนเยาว์วัยนั้นสิ้นสุดในคืนที่แม่ของเขาตาย ต่อจากนั้นเขาก็จากหมู่บ้านเล็กๆที่กางล็คมัวร์ที่นี้ไป เขาใช้เวลานานหลายสิบปีเพื่อหนีจากอดีตกาลอันปวด แม้กระนั้นเมื่อคู่หมั้นคู่หมายของพี่ชายเกว็น คอนลิฟฟ์ (เอมิลี่ บลันท์) มาวิงวอนให้เขาช่วย ทัลบอทก็เลยเดินทางกลับมา และก็ได้เจอกลับเรื่องน่าสพรึงเมื่อปรากฏว่ามีสัตว์ที่ดุร้ายรวมทั้งหิวเหลือดไล่ฆ่าผู้คนในหมู่บ้าน ซึ่งทางสก็อตแลนด์ยาร์ดได้ส่งสายสืบที่ชื่อเอเบอร์ลิน (องค์การอนามัยโลกเก๋ วีฟวิ่ง) มากระทำสืบคดีนี้

ในขณะทัลบอท เบาๆแสวงหาความเป็นจริงนั้น มนุษย์หมาป่าราชันย์อำมหิต เขาได้ยินถึงเรื่องของคำแช่งที่ทำให้คนแปลงร่างเป็นสุนัขป่าในคืนพระจันทร์เต็มดวง เขาก็เลยจำเป็นต้องคิดแผนล่าเจ้าสัตว์ร้ายนี้เพื่อคุ้มครองหญิงสาวที่เขากำลังเริ่มจะมีจิตใจให้ เมื่อการไล่ล่าในคืนพระจันทร์เต็มดวงเกิดขึ้น ผู้ชายผู้มีอดีตกาลอันปวดก็ได้เจอกับด้านมืดที่ซุกซ่อนอยู่ในตนเองโดยที่เขาไม่เคยคาดการณ์มาก่อน

มนุษย์หมาป่าราชันย์อำมหิต

เรื่องราว มนุษย์หมาป่าราชันย์อำมหิต

ในปี 1891 ชีวิตวัยเด็กของ ลอว์เรนซ์ ทัลบอต (เบนิสิโอ เดล โทโร่) สิ้นสุดในคืนที่แม่ของเขาตาย ต่อไปเขาก็จากหมู่บ้านเล็กๆที่กางล็กมัวร์ไป เขาใช้เวลานานหลายสิบปีหนีจากอดีตกาลอันเจ็บ แม้กระนั้นเมื่อ เกว็น คอนลิฟฟ์ (เอมิลี บลันต์) คู่หมั้นคู่หมายของพี่ชายมาวิงวอน เนื่องจากว่าพี่ชายล่องหนไป ทัลบอตก็จำเป็นต้องเดินทางกลับมายังคฤหาสน์ของครอบครัว ทัลบอตกับบิดาที่ไม่ค่อยสนิทกัน (แอนโทนี ฮ็อปกินส์) ต้องด้วยกันตามหาพี่ที่สูญหาย ขณะเดียวกันนั้น เกิดเหตุสะเทือนใจขึ้นในหมู่บ้าน

เมื่อสัตว์ดุร้ายหิวเหลือดออกก่อกวนไล่ฆ่าผู้คน สก็อตแลนด์ยาร์ดส่งสายลับ เอเบอร์ลิน (ฮิวโก วีฟวิง) เข้ามาสืบคดีนี้ พร้อมด้วยที่ทัลบอตเองก็เบาๆแสวงหาความเป็นจริงเหมือนกัน ต่อจากนั้น ทัลบอตได้ยินเรื่องคำแช่งที่ทำให้คนเปลี่ยนร่างเป็นสุนัขป่าในคืนพระจันทร์เต็มดวง เขาก็เลยจำต้องคิดแผนล่าเจ้าสัตว์ร้ายนี้เพื่อคุ้มครองปกป้องหญิงสาวที่เขากำลังเริ่มจะมีดวงใจให้ เมื่อการไล่ล่าในคืนพระจันทร์เต็มดวงเริ่มขึ้น ผู้ชายผู้มีอดีตกาลอันเจ็บก็ได้เจอกับด้านมืดที่ซุกซ่อนอยู่ในตนเองโดยที่เขาไม่เคยคาดการณ์มาก่อน

ฉันนึกออกว่าเคยมอง “The Wolfman” ในโรงหนังแล้วก็อัศจรรย์ใจกับความยอดเยี่ยมของหนังหัวข้อนี้ รวมทั้งยาวนานหลายปีถัดมาได้มองเห็นใน IMDB มนุษย์หมาป่าราชันย์อำมหิต ว่ามันได้คะแนนเพียงแค่ 5.8 แล้วก็เพียงแค่เกาหัวโดยสงสัยว่าฉันผิดพลาดอะไรไปหรือไม่ ในขณะนี้ปี 2021 แล้ว เพิ่งจะมองซ้ำใน Netflix ก็ยังเป็นหนังที่อัศจรรย์อยู่! อัศจรรย์จริงๆ! ฉันจินตนาการไม่ออกว่าหนังประเด็นนี้จะดียิ่งกว่านี้ได้ยังไง! ฉันมั่นใจว่าหนังหัวข้อนี้ควรจะได้รับเรตเดียวกับ “Sleepy Hallow!” ฉันให้ 9/10!

ดาราหนังทุกคนเก่งมากมาย แม้กระนั้นที่เซอร์ไพรส์สุดๆเป็น ฮิวโก้เก๋ วีฟวิ่ง ในสไตล์สายสืบเชอร์ล็อก โฮล์มส์ ที่รุนแรงในเรื่องที่ลอว์เรนซ์ (เบนิสิโอ เดล โตโร) เป็นมนุษย์สุนัขป่าหรือเปล่า! ฉันต้องการจะสปอยล์แม้กระนั้นฉันไม่ทำ! เป็นเพียงแค่หนังที่จำเป็นต้องมอง!

รีวิวหนังสยองขวัญ แต่ว่าไม่สปอย THE WOLFMAN

ลอว์เรนซ์ ทัลบอท (เบนิสิโอ เดล โทโร่) ชายคนมั่งมีได้ถูกเรียกตัวให้กลับไปยังคฤหาสน์ของครอบครัว เนื่องจากว่าการล่องหนไปของพี่ชาย เขากับผู้เป็นบิดา เซอร์จอห์น ทัลบอท (แอนโทนี่ ฮ็อปกินส์) ที่ไม่ค่อยสนิทกันก็ต้องด้วยกันตามหาพี่ที่สาปสูญ ซึ่งเป็นจุดเริ่มแรกของเรื่องราวน่ากลัวที่ถูกลิขิตให้เขาจะต้องพบเห็น

ลอว์เรนซ์ ทัลบอท ในตอนเยาว์วัยนั้นจบในคืนที่แม่ของเขาตาย ต่อไปเขาก็จากหมู่บ้านเล็กๆที่กางล็คมัวร์ไป เขาใช้เวลานานหลายสิบปีเพื่อหนีจากสมัยก่อนอันปวด แต่ว่าเมื่อคู่หมั้นคู่หมายของพี่ชาย เกว็น คอนลิฟฟ์ (เอมิลี่ บลันท์) มาร้องขอให้เขาช่วย ทัลบอทก็เลยเดินทางกลับมา แล้วก็ได้เจอกับเรื่องน่าน่ากลัว เมื่อปรากฎว่ามีสัตว์ที่ดุร้ายแล้วก็หิวเหลือดไล่ฆ่าผู้คนในหมู่บ้าน ซึ่งทางสกอตแลนด์ยาร์ดได้ส่งสายสืบที่ชื่อ เอเบอร์ลิน (ฮิวหรูหรา วีฟวิ่ง) มาทำสืบคดีนี้

ในตอนที่ทัลบอทเบาๆแสวงหาความเป็นจริงนั้น เขาได้ยินถึงเรื่องของคำแช่งที่ทำให้คนแปลงร่างเป็นสุนัขป่าในคืนพระจันทร์เต็มดวง เขาก็เลยจำต้องคิดแผนล่าเจ้าสัตว์ร้ายนี้ เพื่อคุ้มครองหญิงสาวที่เขากำลังเริ่มจะมีหัวใจให้ เมื่อการไล่ล่าในคืนพระจันทร์เต็มดวงเกิดขึ้น เด็กหนุ่มผู้มีอดีตกาลอันปวดก็ได้เจอกับด้านมืดที่ซุกซ่อนอยู่ในตนเอง โดยที่เขาไม่คาดคิดมาก่อน

เมื่อมองจบ ความรู้สึกแรกที่มีก็คือ รู้สึกเสียดายในหลายๆอย่างที่หนังหัวข้อนี้มี ไม่ว่าจะเกิดเรื่องราวที่เป็นตำนานสยองขวัญอันเลื่องลือ บรรยากาศเบื้องหลังที่หลอนอย่างดีเยี่ยม แถมยังมีซีจีขั้นเทวดา รวมถึงการที่ได้ดาราหนังประสิทธิภาพมีชื่อผู้คนจำนวนมากมาร่วมแสดง แต่ว่าเพราะเหตุไรภาพโดยรวมของตัวหนังกลับทำเป็นเพียงแค่พอได้แค่นั้น

ไม่ถึงขนาดดีสะดุดตาอย่างที่จะต้องเป็น มนุษย์หมาป่าราชันย์อำมหิต แม้ว่าหนังมีส่วนผสมชั้นเยี่ยมอยู่ในมือแท้ๆแม้กระนั้น…ก็อย่างที่ทราบผลสรุปในที่สุดที่ The Wolfman เป็นก็คือ เพียงแค่ถ้าอย่างนั้นๆแล้วอย่างงี้จะโทษคนใดกันแน่ดีระหว่างเพศผู้ดูแล ผู้เขียนบท โปรดิวเซอร์ หรือทางค่ายภาพยนตร์?

ในส่วนที่มีความรู้สึกว่ายอดเยี่ยมใน The Wolfman ที่ผมถูกใจมากมายเป็นพิเศษก็คือ เคล็ดวิธีซีจีขั้นเทวดาที่ทำฉากแปลงร่างเป็นมนุษย์สุนัขป่าได้เนียนโคตรๆถึงแม้ภายหลังจากเปลี่ยนเป็นมนุษย์สุนัขป่าแล้วจะดูอย่างกับว่าคนใส่ชุดขนสัตว์สีดำรกก็ตาม (ฮา) อีกอย่างที่ถูกใจรองลงมาหน่อยก็อาจเป็นบรรยากาศเบื้องหลังที่เหมือนจริงแล้วก็ให้อารมณ์ร่วมหลอนๆได้อย่างดีเยี่ยม

และก็ส่วนที่เกลียดเลยก็คือ บทหนังกับการดูแลที่ทำออกมาได้น่าระอามากมายๆในทีแรกๆ ไม่จบสิ้นสุดๆในตอนกึ่งกลาง และก็น่าอารมณ์เสียโคตรๆในตอนหลัง แถมยังขัดใจเป็นพิเศษกับตอนสุดท้ายที่ช่างจบได้ง่ายอย่างยิ่งแล้วก็เป็นสูตรสำเร็จมากมายๆซึ่งจุดบกพร่องพวกนี้นี่เองก็เลยทำให้ The Wolfman นั้นแปลงเป็นหนังสยองขวัญเนือยๆอย่างที่มองเห็น

กับหน้าที่การแสดงนั้นเบนิสิโอ เดล โตโร ก็แสดงก้าวหน้าอย่างที่คนมีรางวัลออสการ์ค้ำประกัน ทั้งยังการแสดงออกทางสีหน้าท่าทางแววตาที่สื่ออารมณ์ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม แล้วก็ที่สะดุดตาเป็นพิเศษในความรู้สึกผมก็คือ บริเวณใบหน้าที่ผมมีความคิดว่าไม่ต้องแต่งซีจีก็คล้ายกับมนุษย์สุนัขป่าอยู่แล้ว (ฮ่าๆ) ส่วนศิลปินสมทบคนอื่นๆนั้นแม้ว่าจะมิได้แสดงก้าวหน้าสะดุดตาอะไรเท่าไรนัก

แม้กระนั้นก็ยังพอเพียงมีอะไรให้จำ อีกทั้งท่านเซอร์แอนโธนี่ ฮ็อพกิ้นส์ (Anthony Hopkins), องค์การอนามัยโลกโก้เก๋ วีฟวิ่ง (Hugo Weaving) และก็เอมีลี่ บลันต์ (Emily Blunt) ต่างคนต่างก็แสดงก้าวหน้าในระดับที่เหมาะจะเป็นสรุปแล้ว ก็เป็นไปได้เพียงแค่หนังสยองขวัญเนือยๆที่มองได้เรื่อยไม่มีอะไรตื่นเต้นแปลกใหม่หรือให้ลุ้นระทึกตั้งแต่ต้นกระทั่งจบอย่างที่หนังสยองขวัญชั้นยอดเป็น จะมีอะไรให้ตื่นตาตื่นใจหน่อยก็อาจเป็นเคล็ดวิธีซีจีเนียนๆกับฉากสยองขวัญเลือดกระจัดกระจาย ไส้ล้นพวกนั้นที่เพียงพอจะก่อให้คนชอบดูหนังสยองขวัญยิ้มมุมปากได้เท่านั้นเอง…

ปีศาจร้ายตัวต่อมาที่ค่าย Universal Pictures สร้างออกมาโกยเงิน

ภายหลัง Dracula และก็ Frankenstein ก็คือ มนุษย์สุนัขป่าครับผม ศิลปินชูโรงเป็น Lon Chaney Jr. กับบท แลร์ปรี่ ทัลบอต ซึ่งเขาเดินทางกลับมาบ้านแล้วก็ได้เจอกับสาวสวย ในขณะที่เขากำลังพาคุณท่องเที่ยวนั้นเอง เขาได้ถูกกัดโดยสุนัขป่าตัวหนึ่ง แล้วแล้วหลังจากนั้นพอเพียงคืนพระจันทร์เต็มดวงมาถึง เขาก็แปลงเป็น มนุษย์สุนัขป่าการแสดงของ Lon Chaney Jr. ถือว่าน่าจำอย่างมากขอรับ

เขามองเป็นชายหนุ่มเจ้าสำราญได้อย่างสมบูรณ์แบบ เอาเพียงแค่ตอนจีบนางเอกก็โอเคแล้ว แววตาลีลาท่าทางเจ้าชู้กรุ่มกริ่มดีจังๆตัวหนังเองก็ทำเป็นดีนะครับ น่าติดตาม การถ่ายทำฉากในป่านั้นก็ทำเป็นสวย น่าสยอง Classic ในขณะเดียวกัน เป็นมองก็รู้ว่ามันเป็นฉากในสตูดิโออะคับ มนุษย์หมาป่าราชันย์อำมหิต แต่ว่าการจัดแสงสว่างจัดส่วนประกอบ การวางต้นไม้ การปลดปล่อยหมอกลงมา ช่วยสร้างความน่าสยองได้อย่างยอดเยี่ยมนะครับ ทั้งหากเอ่ยถึงในด้านความงดงามล่ะก็ ฉากมันเด็ดขาดดีจังๆ

เกวนเศร้าใจที่ลอว์เรนซ์เข้ามาเกี่ยวพัน โดยพูดว่าถ้าเกิดคุณไม่เคยส่งจดหมายฉบับนั้นให้เขา เขาก็จะยังคงอยู่ในนิวยอร์ก คุณส่งจดหมายถึงลอว์เรนซ์เมื่อเบ็นล่องหนไปในเวอร์ชั่นละคร แม้กระนั้นในฉบับขยาย คุณไปบอกเขาด้วยตัวเองแทน แม้กระนั้นบรรทัด “ตัวหนังสือ” จะยังคงอยู่ในทั้งคู่เวอร์ชัน แม้ว่าจะไม่มีเหตุผลก็ตามในเวอร์ชันข้างหลังก็ตาม

เมื่อเขากลับมายังถิ่นฐานบ้านช่องของบรรพบุรุษ ชายคนอเมริกัน (เบนิสิโอ เดล โตโร) ถูกกัดและก็ถัดมาถูกมนุษย์สุนัขป่าสาปการรีเมคจำพวกนี้ติดกับดักที่แพ้ ถ้าเกิดบากบั่นแต่งเรื่องราวขึ้นมาใหม่ทั้งหมดทั้งปวง ก็จะก่อให้แฟนคลับบางบุคคลไม่ชอบใจที่จะต้องทอดทิ้งแหล่งข้อมูล แต่ว่าในทางตรงกันข้าม การเข้าใกล้ต้นฉบับมากจนเกินไปจะมีผลให้ผู้คนพูดว่าไม่มีวันที่จะเหนือกว่าต้นฉบับได้ (ซึ่งบางทีอาจเป็นจริง)

เบนิสิโอ เดล โทโรคือตัวเลือกที่แจ่มกระจ่างของผู้คนสุนัขป่ารายนี้ และก็เขาก็แสดงบทนี้เจริญ การถ่ายรูปยนตร์แล้วก็บรรยากาศงามมากมาย และก็ดนตรีของเอลฟ์แมนก็ได้รับการชื่นชอบ (และก็ค่อยกว่าเพลงหลายเพลงของเขามากมาย) Rick Baker ได้รับรางวัลออสการ์อีกรอบจากการแต่งหน้าทาปากของเขาตรงนี้ แล้วก็คนไหนกันแน่จะคัดค้านหัวข้อนี้ได้?

บทวิเคราะห์มีทิศทางที่จะเป็นลบ โรเจอร์ เอเบิร์ต ผู้ประทับใจหนังสยองขวัญให้แต้ม 2.5 ดาวนิดหน่อย แต่ว่าต่อจากนั้นก็จะต้องเจอจุดบกพร่องโดยไม่คิดถึงคำชื่นชมใดๆก็ตาม winner66 ที่เขามี: “ภาพยนตร์ประเด็นนี้ขาดตกบกพร่องอยู่จุดเดียว แล้วก็นักอ่านที่ซื่อตรงจะไม่ประหลาดใจที่ค้นพบว่าเกี่ยวโยงกับ CGI สเปเชียลเอฟเฟ็กต์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามีหลายฉากที่ทำเป็นดีเยี่ยมใน CGI โดยที่ฉันไม่เห็นด้วย

แต่ว่าเมื่อมนุษย์สุนัขป่าเคลื่อนเข้าไปในป่า เขาก็ทำแบบนั้นด้วยความเร็วเยอะเกินไป เขาจะมองน่าไว้วางใจมากเพิ่มขึ้นหากเขาเคลื่อนเสมือน สัตว์ที่มีน้ำหนักมากมาย”จริงอยู่ที่ว่าเขาตรงประเด็น เมื่อคุณมี Baker อยู่ในกลุ่ม ก็ไม่มีความจำเป็นต้องมี CGI (หรืออย่างต่ำก็ไม่เท่าไรนัก) ไม่ใช่เรื่องน่าละอายที่จะใช้มันเมื่อมันช่วยได้จริงๆแม้กระนั้นเมื่อมันเด่นจนกระทั่งเจ็บนิ้วโป้ง อาจถึงเวลาที่จะต้องถ่ายใหม่สักสองสามครั้ง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *