พีทมอส (Peat Moss)เป็นสารอินทรีย์ประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นได้เองในธรรมชาติ จากแนวทางการทับถมแล้วก็สลายตัวของพืชแล้วก็สิ่งมีชีวิตต่างๆซึ่งโดยส่วนมากเป็นพืชเชื้อสายมอสโดยยิ่งไปกว่านั้นสแฟกนั่มมอส (Sphagnum Moss) ก็เลยทำให้ ถูกเรียกอีกชื่อว่า สแฟกนั่ม (Sphagnum Peat Moss) โดยกรรมวิธีทับถมและก็เสื่อมสภาพในธรรมชาตินี้รับประทานช่วงเวลาช้านานหลายพันปี จนได้ ที่มีคุณลักษณะรวมทั้งลักษณะที่แตกต่างออกไปในแต่ละระดับชั้นความลึก
พบได้บ่อยได้ในเขตเมืองหนาว อย่างเช่น ประเทศแคนาดา รัสเซีย เยอรมัน ประเทศสวีเดน และก็ประเทศอเมริกา โดยยิ่งไปกว่านั้นในรอบๆที่มีน้ำท่วมขัง บ่อน้ำ หรือพื้นที่เปียกแฉะน้ำ (Wetlands) ด้วยคุณลักษณะที่เด่นของ ก็เลยถูกประยุกต์ใช้เป็นสิ่งของปลูกเป็นครั้งแรกในตอนกึ่งกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 ก่อนจะเป็นที่นิยมอย่างล้นหลาม รวมทั้งเปลี่ยนเป็นสิ่งของปลูกที่ถูกใช้ในการเกษตรในหลายๆประเทศทั่วทั้งโลก
พีทมอส (Peat Moss) เป็นสิ่งของเส้นใยสีน้ำตาลเข้มของสแฟ็กนัมมอสแล้วก็อินทรีย์อื่นๆที่สลายตัวแล้วทับถมกันมานานหลายพันปี ก่อให้เกิดเป็น อยู่ที่ด้านล่างพื้นที่เปียกน้ำ สมักใช้เป็นสารเปลี่ยนแปลงดินหรือสิ่งของปลูกเอาไว้ในสวนแล้วก็พืชสวน เพราะความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการปรับแก้องค์ประกอบดินแล้วก็ซับน้ำก้าวหน้า มีความโปร่งสบายที่ทำให้พืชได้อากาศทั่วถึง ไม่ยุ่ยเสื่อมสภาพตัวเร็วเหลือเกิน อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ทรัพยากรหมุนวน แล้วก็การเก็บเกี่ยวอาจส่งผลให้กำเนิดความย่ำแย่อย่างยิ่งต่อสภาพแวดล้อม
พีทมอส วัสดุปลูกที่มีประโยชน์มากมาย
ด้วยเหตุดังกล่าวก็เลยมีทางเลือกเยอะมากที่ถูกคิดว่าเป็นสิ่งของตอบแทน ข้อไม่สบายใจหลักอย่างหนึ่งของ เป็นความคงทนถาวร จำเป็นต้องใช้เวลาหลายพันปีสำหรับการสลายตัวและก็เกิดเป็น ซึ่งความอยากได้ ที่มากขึ้น ส่งผลให้เกิดการเก็บเกี่ยวมากจนเกินความจำเป็นแล้วก็การทำลาย ซึ่งบางทีอาจไม่ดีต่อสภาพแวดล้อมรวมทั้งระบบนิเวศในเขตแดน ยิ่งกว่านั้น อาจมีราคาสูงสำหรับในการซื้อ สิ่งนี้อาจจะทำให้เกษตรกรบางบุคคลเข้าถึงทรัพยากรอันมีค่านี้ได้ยาก แต่ว่าก็มีทางเลือกล้นหลามสำหรับตอบแทน ซึ่งสามารถใช้เป็นอุปกรณ์เพาะกล้าหรืออุปกรณ์ปลูกแทน ได้ ตัวเลือกหนึ่งยอดนิยมเป็นขุยมะพร้าวซึ่งทำมาจากเปลือกมะพร้าวที่มีเส้นใย
มีความรู้ความเข้าใจสำหรับการเก็บกักน้ำได้ใกล้เคียงกับ รวมทั้งเก็บเกี่ยวได้จีรังยั่งยืนกว่า เหตุเพราะต้นมะพร้าวเป็นทรัพยากรหมุนวน โอกาสอื่นๆดังเช่นว่า เศษไม้ ปุ๋ยคอก แล้วก็กาบไม้ที่ทำปุ๋ยคอก สิ่งของพวกนี้สามารถประยุกต์ใช้เพื่อปรับปรุงแก้ไของค์ประกอบของดินแล้วก็ให้ธาตุอาหารแก่พืช โดยไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลเรื่องสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวเนื่องกับ
เป็นตัวเลือกยอดฮิตสำหรับอุปกรณ์เพาะกล้าในสวนแล้วก็พืชสวนมานาน เป็นอุปกรณ์ที่ดีสำหรับเพาะเม็ด และก็ต้นกล้า อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องการที่มากเกินความจำเป็น ทำให้เป็นหนทางที่ไม่ยืนยงแล้วก็ทำลายสภาพแวดล้อม โชคดีที่มีทางเลือกอื่นที่ยืนยงและก็เป็นมิตรกับสภาพแวดล้อมมากมายก่ายกองสำหรับใช้แทน เป็นสิ่งของเพาะกล้าได้ โอกาสพวกนี้ให้ผลดีเหมือนกับ โดยไม่มีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม
หนทางหนึ่งยอดนิยมเป็นขุยมะพร้าวซึ่งทำมาจากเปลือกมะพร้าวที่มีเส้นใย มีความเข้าใจสำหรับเพื่อการเก็บกักน้ำได้ใกล้เคียงกับ และก็เก็บเกี่ยวได้ยืนยงกว่า เนื่องด้วยต้นมะพร้าวเป็นทรัพยากรหมุนวน ขุยมะพร้าวยังมีขายอย่างมากมายรวมทั้งแพงไม่แพง ทำให้เป็นหนทางของสิ่งของเพาะกล้าใช้แทน ที่เข้าถึงได้สำหรับเกษตรกร หนทางอื่นที่ยืนนานสำหรับ อาทิเช่น เศษไม้ ปุ๋ยธรรมชาติ แล้วก็กาบไม้ที่ทำปุ๋ยคอก สิ่งของพวกนี้สามารถประยุกต์ใช้เปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของดินแล้วก็ให้สารอาหารแก่ต้นกล้าได้ อีกทั้งมีความมั่นคงยั่งยืนแล้วก็เป็นมิตรกับสภาพแวดล้อมมากยิ่งกว่า
พีทมอส (Peat Moss) เป็นสารสำคัญในแวดวงเพาะปลูก
และก็การจัดตกแต่งสวนยอดนิยมอย่างมากมาย ซึ่งเป็นการเก็บเกี่ยวจากแม่น้ำหรือบ่อน้ำที่มีการสะสมสิ่งของอย่างกำมะถันไว้เป็นระยะเวลานานเป็นต้นตอของอินทรีย์วัตถุ เป็นสิ่งที่มีคุณลักษณะดีเพื่อการเพาะปลูกพืชหรือใช้เพื่อสำหรับในการปรับปรุงแก้ไขดินสำหรับเพื่อการจัดสวน มีความหมายด้วยเหตุว่ามีความรอดต่อการกัดกร่อนและก็ความชุ่มชื้นที่ดี ซึ่งทำให้มีความรู้และความเข้าใจสำหรับการเก็บกักน้ำได้มาก ก็เลยได้รับความนิยมสำหรับเพื่อการใช้ในลัษณะของการปลูกพืชที่อยากระบบรากชุดใหญ่รวมทั้งรากอากาศ ยิ่งไปกว่านี้ ยังช่วยทำให้ดินมีความร่วนซุย ปรับภาวะดินเพื่อพืชสามารถเจริญวัยได้อย่างเหมาะควร
การใช้ สำหรับเพื่อการเพาะปลูกมีวิธีการดำเนินการง่าย โดยเริ่มจากการผสม กับดินปลูกลงในรูปทรงที่สมควร แล้วใช้เพื่อการเพาะเม็ดหรือปลูกต้นไม้ จะช่วยทำให้รากของพืชเติบโตได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยเหตุว่าสามารถเก็บน้ำรวมทั้งของกินเอาไว้ในระบบรากก้าวหน้า ยิ่งไปกว่านี้ ยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นในดินรวมทั้งคุ้มครองการร รากสูงบางทีอาจจะเสียหายจากการแห้งแล้วก็ความร้อน ด้วยการใช้ สำหรับเพื่อการปลูกพืช จะช่วยทำให้รากมีการรักษาความชุ่มชื้นอย่างเหมาะควรและก็ลดการทำให้น้ำระเหยออกไปในระยะเริ่มต้นของการเติบโต ทำให้พืชได้โอกาสเติบโตอย่างสมบูรณ์แข็งแรง
นอกเหนือจากการใช้สำหรับในการเพาะปลูกพืช พีทมอส ยังมีการประยุกต์ใช้สำหรับในการแก้ไขดินสำหรับเพื่อการจัดสวน โดยใช้เพื่อสำหรับในการตระเตรียมดินก่อนจะมีการปลูกพืชหรือปลูกไม้ จะช่วยเพิ่มความร่วนซุยของดิน คุ้มครองการรากน้ำของดินและก็ทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นสำหรับเพื่อการถ่ายเทอากาศ ทำให้รากพืชสามารถเติบโตได้อย่างมากแล้วก็บริบูรณ์ข้างในภาวะดินที่ดีทั้ง ยังสามารถประยุกต์ใช้สำหรับในการสร้างเลนส์หรือเสริมรากสำหรับพืชที่อยากระบบรากที่เดินทางได้ไกล โดยการวาง รอบๆโคนพืชหรือราก จะช่วยทำให้รากเติบโตอย่างมากและก็มั่นคง และก็สามารถต้านทานการคัดของดินในระบบรากที่ถูกเสียหายได้
ให้การระบายน้ำที่ดีแล้วก็ช่วยควบคุมอุณหภูมิในดิน นอกเหนือจากนั้น ยังสามารถใช้เป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับเพื่อการสร้างคอกหรือแอ่งน้ำสำหรับสวนผักหรือสวนส่วนตัว เพราะว่ามีความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการเก็บน้ำและก็รักษาความชุ่มชื้นได้ดิบได้ดี ช่วยทำให้พืชสามารถรอดรับการเก็บเกี่ยวน้ำในฤดูแล้งหรือในสภาพการณ์ที่มีการให้น้ำอย่างไม่บ่อยนัก แม้กระนั้น การใช้ ในแวดวงเพาะปลูกแล้วก็การแต่งสวนก็มีข้อควรไตร่ตรองบางประการ มีความเป็นกรดมากมาย เมื่อใช้มากเกินความจำเป็นหรือในสถานการณ์ที่ดินมีความเป็นกรดมากมายอยู่แล้ว
อาจจะเป็นผลให้มีการเปลี่ยนในค่า pH ของดินได้ ซึ่งบางทีอาจทำให้เกิดผลเสียต่อการเติบโตของพืชได้ ฉะนั้น ควรที่จะใช้ ในจำนวนที่สมควรรวมทั้งแก้ไขค่า pH ของดินตามสมควร ในสรุป เป็นสิ่งของที่มีความจำเป็นรวมทั้งนิยมใช้ในแวดวงเพาะปลูกแล้วก็การจัดตกแต่งสวน มีคุณลักษณะสำหรับการเก็บกักน้ำแล้วก็รักษาความชุ่มชื้นเจริญ ช่วยเพิ่มความร่วนซุยของดิน รวมทั้งสามารถใช้เป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับในการสร้างระบบรากสำหรับพืชได้ แต่
มีต้นเหตุมาจากการเสียชีวิตทับถมกันของต้นมอสสายชนิดสแปกนัม (Sphagnum sp.) ซึ่งตายทับถมกันมานานเป็นระยะเวลาหลายพันปี โดยรูปแบบของ จะมีองค์ประกอบโปร่ง ช่องว่างอากาศสูง สามารถเก็บความเปียกชื้นก้าวหน้า มีความเป็นกรดอ่อนๆ(pH ต่ำ) ไม่มีเชื้อต้นสายปลายเหตุโรคพืช ไม่มีวัชพืช ก็เลยมีคุณลักษณะสมควรใช้เป็นอุปกรณ์ปลูกรวมทั้งอุปกรณ์เพาะกล้าอย่างดีเยี่ยม
แบ่งรูปแบบของพีทมอสตามชั้นและก็เนื้อพีทได้ดังต่อไปนี้
- ข้างบนจะมีสีน้ำตาล องค์ประกอบโปร่ง ช่องว่างอากาศสูงเพราะพีทข้างบนการกดทับน้อย ผ่านการเสื่อมสภาพไม่นานก็เลยมีองค์ประกอบเส้นใยอยู่บ้าง พวกเราจะเรียกว่าพีทข้างบนนี้ว่า “พีทขาว” (White peat)
- ชั้นรองลงมาจะมีสีน้ำตาลเข้ม ส่วนประกอบยังคงมีความโล่งอยู่ แต่ว่าผ่านการเสื่อมสภาพมาบ้างแล้วเส้นใยจะลดลง สามารถเก็บความเปียกชื้นได้ดียิ่งไปกว่าพีทขาว พวกเราเรียกพีทชั้นนี้ว่า Moderately decomposed White peat หรือบางบุคคลเรียกว่า “พีทน้ำตาล” (Brown peat)
- พีทด้านล่างจะมีสีดำสามารถเก็บความเปียกชื้นได้ดิบได้ดี องค์ประกอบเนื้อพีทมีความโปร่งสบายน้อย เนื่องด้วยผ่านการกดทับมานานและก็ผ่านการเสื่อมสลายมานานแล้ว พวกเราจะเรียก พีทชั้นนี้ว่า “พีทดำ” (Black peat)
ที่ผ่านการแก้ไขประสิทธิภาพให้มีความเหมาะสม สามารถประยุกต์ใช้งานทางด้านการกสิกรรมและก็การเพาะปลูกได้อย่างมากมาย ได้แก่ใช้ เพื่อปรับประสิทธิภาพดินให้มีความชุ่มชื้นแล้วก็มีความร่วนซุย เหมาะสมกับการเพาะปลูกเยอะขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการผสม กับดินธรรมชาติ (ดินปนทราย ดินเหนียว) ในอัตราส่วนที่สมควร ยกตัวอย่างเช่น ใช้ 1 ส่วน ผสมกับดินธรรมชาติ 2 ส่วน เพื่อช่วยทำให้ปรุงประสิทธิภาพและก็ส่วนประกอบของดินให้ร่วนโปร่ง มีความชื้นในระดับที่พอดี รวมทั้งสามารถระบายน้ำแล้วก็อากาศก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อยๆใช้ สำหรับในการเพาะเมล็ดพันธุ์หรือเพาะต้นกล้า โดยนิยมใช้ สีน้ำตาลเข้มหรือ ดำ ที่มีเนื้อออกจะละเอียดรวมทั้งมีความชุ่มชื้นสูงสำหรับในการเพาะเม็ดใช้ ในการปักชำกล้า หรือใช้ทำตุ้มตอนกิ่ง
ดังนี้คุณลักษณะที่แตกต่างของพีท เป็นความรู้ความเข้าใจสำหรับในการซับความชุ่มชื้น พีทสีดำจะมีความรู้และความเข้าใจสำหรับการซับความชุ่มชื้นเยอะที่สุด มีคุณลักษณะเป็น Humus เยอะที่สุด ก็เลยไม่เหมาะสมที่จะเอามาดัดแปลงเป็นปุ๋ยธรรมชาติ เพื่อใช้สำหรับเพื่อการเกษตรรวมทั้งปลูกแคคตัส นอกเหนือจากนี้พีทสีดำยังราคาแพงมากที่สุดด้วย ด้วยเหตุว่าใช้ทุนสำหรับเพื่อการเจาะมาก เพราะว่าถูกทับอยู่ด้านล่างสุด ต่ำยิ่งกว่าชั้นผิวดินหลายร้อยเมตร ก็เลยไม่นิยมประยุกต์ใช้สำหรับการเกษตร แม้กระนั้นนิยมเอามาทำเป็นเชื้อเพลิงสำหรับเพื่อการผลิตพลังงานให้ความร้อนในบ้านเรือนและก็อุตสาหกรรมทั่วๆไป
โดย จะมีอยู่มากมายในแถบที่อากาศหนาว อย่างสถานที่ หรือและก็ประเทศเมืองหนาว ยกตัวอย่างเช่น รัสเซีย แล้วก็แคนาดา ฯลฯ ยิ่งไปกว่านี้ ในธรรมชาติ มีเพียงแค่ 3% เพียงแค่นั้น เมื่อเทียบกับพื้นดินบนโลก การขุด ก็เลยเกิดเรื่องที่เคร่งในหลายๆประเทศ แต่ว่าด้วยเหตุว่าสภาพภูมิอากาศของเมืองไทยเป็นเมืองที่มีอากาศร้อน เพราะฉะนั้น ที่พวกเราใช้กันนั้นก็เลยเป็นการนำเข้าจากต่างแดนทั้งมวล ทำให้ ราคาแพงสูงขึ้นยิ่งกว่าดินทั่วๆไป สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าขายต้นไม้ทั่วๆไป หรือสามารถซื้อผ่านหนทางออนไลน์ต่างๆได้ ซึ่งจะมีขายแบบถุงเล็กๆไปจนกระทั่งกระสอบใหญ่ๆแม้กระนั้นถ้าเกิดพวกเราหาซื้อมิได้ หรือมีงบประมาณที่จำกัด
เว้นแต่ ที่ทำจากมอสแล้ว ในเวลานี้ก็มี “วัวโค่ พีท (Coco Peat)” ทำจากขุยมะพร้าว รวมทั้งเอามาปรับค่าต่างๆที่อยู่ในขุยมะพร้าว ให้มีความสะอาด ไม่มีเชื้อ เนื้อละเอียด และไม่แตกต่างจากการใช้ เพื่อเหมาะสมกับการเพาะต้นกล้า แถมวัวโค่ พีท ยังผลิตภายในประเทศไทยได้ ก็เลยทำให้ราคาประหยัดว์กว่า มากมาย รวมทั้งสมรรถนะสำหรับในการปลูกก็ไม่ต่างอะไรกันนะครับด้วยเหตุว่า มีต้นเหตุที่เกิดจากวิธีการทับถมแล้วก็สลายตัวของพืชเครือญาติมอส รวมทั้งพืชแล้วก็สิ่งมีชีวิตอื่นๆเป็นเวลานานหลายพันปี ก็เลยสามารถแบ่งประเภท ที่มีการทับถมในแต่ละชั้นออกมาจากกันด้วยการใช้ระดับความชุ่มชื้นรวมทั้งระดับการเสื่อมสลาย โดยในตอนปี คริสต์ศักราช 1926 Lennart Von Post
ได้ทำการวิจัยและก็จัดชนิดและประเภทดิน ออกเป็น 10 ระดับ (Von Post scale) ถามตั้งแต่ระดับชั้น H1 ที่เป็นข้างบนสุดของ ที่ยังไม่มีการสลายตัว สามารถเห็นเป็นเส้นใยของพืชได้อย่างเห็นได้ชัด ไล่ระดับลงไปจนกระทั่งชั้น H10 ที่เกิดขั้นตอนการการเสื่อมสลายขึ้นอย่างสมบูรณ์ ทำให้ดิน ในชั้น H10 มีเนื้อแน่นละเอียด และก็มีคุณลักษณะสำหรับในการเก็บกักความชุ่มชื้นเจริญสูงที่สุด นับเป็นสิ่งของปลูกประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ด้วยคุณลักษณะที่ครบสมบูรณ์อีกทั้งความสะอาดรวมทั้งไม่มีเชื้อ
ช่วยลดจังหวะการเกิดโรคในพืช นอกไปจากนี้ ยังเก็บกักความชุ่มชื้นไว้ภายในดินได้อย่างดีเยี่ยม winner66 เครดิตฟรี และก็ยังช่วยทำให้ปรุงประสิทธิภาพดินให้มีความเหมาะสมกับการเพาะปลูกเพิ่มมากขึ้น แต่ว่าแต่ผู้ใช้ก็ควรจะพิเคราะห์เลือกใช้จำพวกรวมทั้งจำนวนของ ให้มีความเหมาะสมกับเมล็ดพันธุ์หรือพืชพันธุ์ที่อยากได้ปลูกสูงที่สุด เพื่อช่วยเพิ่มอัตราการบรรลุเป้าหมายสำหรับการเพาะปลูกรวมทั้งทำให้พืชพันธุ์เติบโตได้อย่างมีคุณภาพ เป็นวัสดุปลูกประเภทหนึ่งที่นิยมนำมาเพาะเมล็ดและต้นกล้า มีลักษณะเป็นเส้นใยสีดำเกิดจากการทับถมกันของซากพืชซากสัตว์เป็นเวลาหลายพันปีซึ่ง จะพบได้ที่ภูมิประเทศที่มีสภาพอากาศหนาว และพบได้บริเวณหนองน้ำ บึงหรือบริเวณที่มีความชื้นสูง